การเลือกรองเท้าคัทชูผู้ชายให้ถูกใจ คุ้มค่า และเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดนั้น มีวิธีการเลือกที่ไม่ยากค่ะ เราได้สรุปวิธีการเลือกรองเท้ามาให้คุณได้ดูกันแล้วใน 3 หัวข้อสำคัญพร้อมกับรายละเอียดที่คุณควรทราบไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ

การสวมใส่รองเท้าที่ดูสุภาพและเป็นทางการ ช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือต่อผู้ร่วมงานได้ ซึ่งก็มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อรูปลักษณ์ของรองเท้านั่นคือ การออกแบบ เช่น การเจาะรูบนหน้ารองเท้าหรือรูปทรงของหัวรองเท้า เป็นต้น เราจึงขอแนะนำรูปแบบและดีไซน์ต่าง ๆ ที่มีผลต่อภาพลักษณ์ในการทำงาน ดังต่อไปนี้

เพียงแค่การออกแบบระบบของเชือกผูกรองเท้า ก็สร้างความแตกต่างระหว่างรองเท้าคัทชูด้วยกันอย่างเห็นได้ชัดแล้วล่ะค่ะ ซึ่ง ระบบเชือกรองเท้าจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ระบบ คือ แบบเปิดและแบบปิด ค่ะ ซึ่ง แบบปิดหรือรองเท้าคัทชูทรง Oxford นั้น จะออกแบบโดยนำแผ่นหนังบริเวณเชือกรองเท้ามาเย็บติดกัน ทำให้เกิดรูปลักษณ์ที่เป็นทางการและทำให้ดูสะอาดตา ในทางตรงกันข้าม หากเป็น แบบเปิดหรือรองเท้าคัทชูทรง Derby จะไม่มีการเย็บชิ้นหนังส่วนนั้นและเปิดให้เห็นเชือกผูกชัดเจน ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่ดูสบาย ๆ และยังเป็นแบบที่คนนิยมสวมใส่กันจำนวนมาก เนื่องจากสวมใส่สบายกว่า โดยเฉพาะกับผู้ที่มีลักษณะอุ้งเท้าสูง (High Arch) ค่ะ

เพื่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนมากขึ้น เราจะต้องพิจารณาจากภาพประกอบด้านบนเพื่อทำความเข้าใจร่วมด้วยค่ะ โดยรองเท้าคัทชูที่มีระบบเชือกรองเท้าแบบปิด (รูปทางขวามือ) จะมีหนังของส่วนที่มีรูร้อยเชือกรองเท้าถูกเย็บติดเข้ากับพื้นผิวด้านหน้าของลิ้นรองเท้า ในขณะที่รองเท้าคัทชูที่มีระบบเชือกรองเท้าแบบเปิด (รูปทางซ้ายมือ) ส่วนหนังบริเวณรูร้อยเชือกจะไม่ได้ถูกเย็บติดกันเหมือนกับอีกแบบหนึ่งค่ะ

รองเท้าแบบหัวเรียบ (Plain Toe) คือ รองเท้าคัทชูที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ เป็นพิเศษ จึงเป็นแบบที่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส อย่างรองเท้าแบบหัวเรียบที่มีระบบเปิดเชือกรองเท้านั้น ก็ถือเป็นตัวอย่างของดีไซน์แบบหนึ่งที่สามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายสถานการณ์ จึงเหมาะเป็นรองเท้าคู่แรกสำหรับคนที่พึ่งเริ่มทำงานเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าหากคุณเลือกสวมใส่รองเท้าคัทชูที่มีระบบปิดเชือกรองเท้า ก็จะช่วยให้ความรู้สึกที่เป็นทางการมากกว่า เพราะคุณอาจต้องการรองเท้าในรูปแบบนี้เผื่อไว้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ใส่ไปออกงานทางการ เป็นต้น

รองเท้าแบบหัวครอบ (Cap Toe) จะมีลวดลายที่ลากเป็นแนวนอนครอบตรงส่วนหัวของรองเท้าเอาไว้ ซึ่งดีไซน์ที่คนนิยมใส่กันมากที่สุด คือ แบบปลายตรง (Straight Tip) หลายคนเรียกรองเท้าแบบนี้ว่า รองเท้าแบบ "ทางการ" เพราะไม่มีการตกแต่งใด ๆ เพิ่มเติม นอกจากการเย็บส่วนหัวของรองเท้าเป็นเส้นคาดเพียงเส้นเดียว

ส่วนรองเท้าประเภทนี้ที่มีการเจาะรูตรงปลายเพิ่มเติม เราจะเรียกกันว่า รองเท้าแบบ "หัวหมวกเจาะรู (Punched Cap Toe)" ซึ่งรูที่เจาะตกแต่งจะช่วยเพิ่มความสวยงามหรูหราได้เป็นอย่างดี รองเท้าที่เป็นปลายตรงส่วนใหญ่จะมีความสูงในระดับที่พอดี และยิ่งหากคุณเลือกรองเท้าชนิดนี้ที่เป็นหนังเรียบสีดำพร้อมกับดีไซน์การร้อยเชือกรองเท้าแบบปิด คุณก็สามารถสวมใส่ไปออกงานที่เป็นทางการได้อย่างไร้กังวลเลยค่ะ

การออกแบบรองเท้าคัทชูขึ้นอยู่กับหนังที่นำมาเป็นวัสดุและส่วนประกอบอื่น ๆ ของรองเท้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีผลกับรูปลักษณ์และคุณภาพของรองเท้าแทบทั้งสิ้น เช่น วัสดุที่ใช้เป็นหนังแท้หรือหนังเทียม? ในการเย็บและการบุรองเท้ามีวิธีการอย่างไร? เป็นต้น ประเด็นเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้ได้ทันทีว่า รองเท้าที่เลือกนั้นดีหรือไม่ แม้ว่าคุณจะไม่ทราบวิธีการเลือกรองเท้าคัทชูโดยเฉพาะมาก่อนค่ะ

โดยส่วนใหญ่แล้ว รองเท้าคัทชูจะทำด้วยหนังธรรมชาติ เช่น หนังวัว, หนังม้า, หนังหมู, หนังแพะ หรือหนังกวาง เป็นต้น ซึ่งหนังธรรมชาติเหล่านี้จะมีลักษณะพิเศษเฉพาะ เพราะมีผิวสัมผัสที่นุ่มลื่น ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มภาพลักษณ์และความภูมิฐานให้กับคนวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม การใช้รองเท้าที่ทำจากหนังแท้จำเป็นจะต้องมีการดูแลรักษาอย่างดีเป็นประจำ เพื่อคงรูปลักษณ์ของรองเท้าให้ดีดังเดิมค่ะ

นอกจากนี้ เรายังพบการนำหนังสังเคราะห์มาใช้ทำรองเท้าคัทชูด้วยเช่นกัน แม้ว่าลักษณะของผิวสัมผัสจะดูด้อยกว่าหนังแท้ก็ตาม แต่ก็มีข้อดีตรงที่ดูแลรักษาได้ง่ายกว่ารองเท้าหนังแท้ แถมในปัจจุบัน ยังมีการผลิตหนังสังเคราะห์ที่มีลักษณะของผิวสัมผัสดูดีเทียบเท่ากับหนังแท้ออกมาด้วย ดังนั้น รองเท้าทั้งสองแบบจึงดูดีในแบบที่ไม่แตกต่างกันมากค่ะ

ในการทำรองเท้าคัทชูสักคู่ออกมานั้น หากผู้ผลิตไม่เอาใจใส่ในเรื่องของโครงสร้างมากพอ จะส่งผลกระทบต่อการสวมใส่ของเราในแง่ของความสบาย อีกทั้งยังทำให้รูปลักษณ์ของรองเท้าดูไม่ดีอีกด้วย เพื่อช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบโครงสร้างของรองเท้าแต่ละคู่ได้ เรามีจุดสำคัญที่คุณควรสังเกต 4 จุดมาฝากค่ะ นั่นก็คือ

- การตัดเย็บที่พิถีพิถัน

- ความสมมาตรของรองเท้าทั้งสองข้าง

- ผิวสัมผัสของวัสดุภายใน

รองเท้าคัทชูในปัจจุบันมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย มีทั้งแบบที่ช่วยให้คุณวิ่งได้ใกล้เคียงกับรองเท้าผ้าใบ และแบบที่เพิ่มคุณสมบัติการกันน้ำและกันความชื้นเข้าไปในตัวรองเท้า โดยใช้วัสดุที่เหมาะสำหรับการสวมใส่รองเท้าภายนอกอาคารเข้าไป ซึ่งหลายคนก็ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อได้รองเท้าที่มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้

สำหรับการเดินเท้าในชีวิตประจำวันของเรา มีบ่อยครั้งที่เราอาจเดินไปเจอกับบริเวณที่พื้นลื่น เช่น บนถนนที่เปียกหรือบนพื้นกระเบื้องที่ลื่น เป็นต้น ซึ่งถ้าพื้นรองเท้าของคุณไม่ได้มีส่วนช่วยป้องกันการลื่นสักเท่าไร ก็จะทำให้ทุกย่างก้าวของคุณเป็นไปอย่างไม่มั่นคง จนคุณอาจลื่นล้มบาดเจ็บได้ ด้วยเหตุนี้เอง วัสดุที่นำมาใช้ทำพื้นรองเท้าจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีรองเท้าคัทชูที่ใช้พื้นรองเท้าเป็นวัสดุกันลื่นมากขึ้น

เมื่อพูดถึงรองเท้าที่ทำจากวัสดุหนัง หลายคนคงนึกถึงความเมื่อยล้าและความยากลำบากต่าง ๆ ในการใช้งาน เช่น ความยากในการถอดออกหรือสวมใส่ เป็นต้น ซึ่งทางผู้ผลิตบางรายก็ได้เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงผลิต รองเท้าคัทชูที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้า ในระหว่างสวมใส่ออกมาวางจำหน่ายไว้เป็นตัวเลือกด้วยค่ะ

สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ รองเท้าที่สามารถลดอาการเมื่อยล้าได้ จะต้องเป็นรองเท้าที่มีขนาดพอเหมาะกับรูปเท้าของคุณที่สุด เพราะแม้ว่ารองเท้าที่คุณชื่นชอบจะอยู่ในลักษณะที่ดีมากสักเท่าไร แต่หากไม่มีไซซ์ที่คุณสามารถสวมใส่ได้พอดีก็ไม่มีความหมาย เพราะการสวมใส่รองเท้าที่เล็กหรือใหญ่เกินไป ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการเมื่อยล้าขณะสวมใส่เช่นกันค่ะ

เมื่อคุณสวมใส่รองเท้าเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความอับชื้นจากภายในได้ เพราะด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทยที่ไม่เป็นมิตรกับการสวมใส่รองเท้าคัทชูนัก จึงเป็นเหตุให้มีการผลิตและคิดค้นรองเท้าคัทชูที่สามารถลดความอับชื้นภายในรองเท้าได้ออกมาวางจำหน่ายค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่รองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีจะมีการใช้วัสดุพิเศษภายในรองเท้า ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบคุณสมบัตินี้ด้วยก่อนการตัดสินใจซื้อนะคะ

การใส่รองเท้าคัทชูในวันที่ฝนตกนั้นคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนของบ้านเราที่ต้องเจอทั้งน้ำขังน้ำนองในทุก ๆ สถานที่ ใครที่คิดว่าตัวเองมีโอกาสต้องใส่รองเท้าคัทชูคู่ใจไปโดนน้ำโดนฝนบ่อย ๆ ล่ะก็ เราขอแนะนำให้เลือก รองเท้าคัชชูที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำและกันความชื้นได้ดี เพื่อลดความกังวลว่าน้ำจะเข้าไปขังภายในรองเท้าได้ ซึ่งการที่นำขังในรองเท้านั้น นอกจากจะก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้นแล้ว ยังทำให้หนังของรองเท้าเสียหายได้ง่ายอีกด้วย การเลือกรองเท้าคัชชูที่กันน้ำได้ก็จะทำให้คุณสวมใส่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นแม้ในวันที่ฝนตก

อย่างไรก็ตาม รองเท้าคัทชูที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้อาจมีวางจำหน่ายไม่มากนักในไทย แต่ก็ยังถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจและเหมาะจะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อรองเท้าคัทชูค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับดีไซน์ว่า คุณจะชื่นชอบและเลือกมาใช้งานในวันที่ฝนตกหรือไม่ด้วยเช่นกัน

ต่อไปเราจะมา แนะนำ 10 อันดับ รองเท้าคัทชูผู้ชาย ที่เพียบพร้อมทั้งดีไซน์และคุณสมบัติเด่นด้านการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าคัทชูได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะมีจากหลายแบรนด์และหลายระดับราคาเลยทีเดียวค่ะ มาดูกันดีกว่าค่ะว่า จะมีแบบไหนที่เข้าตาคุณบ้าง

จะเห็นได้ว่า รองเท้าคัทชูสำหรับผู้ชายมีหลากหลายดีไซน์เลยนะคะ โดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับลักษณะรูปทรงของรองเท้า อย่างเช่น หัวตรง หัวเรียบมน หัวเชิด เป็นต้น ซึ่งแต่ละดีไซน์ก็จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เราจะมาดูกันค่ะว่าดีไซน์ส่วนใหญ่ที่เราพบนั้นมีอะไรบ้างและมีลักษณะอย่างไร

รองเท้าคัทชูแบบปลายตรง คือ รองเท้าที่มีการเย็บปักเส้นคาดตรงหัวรองเท้า ซึ่งเส้นนี้จะช่วยทำให้หนังของรองเท้าไม่เกิดรอยยับ นับตั้งแต่ตรงเส้นคาดไปจนถึงปลายนิ้วเท้า นิยมใส่ในงานที่เป็นทางการทั่วไปและยังสามารถสวมใส่ในงานที่เป็นพิธีการหรือโอกาสต่าง ๆ ได้อีกด้วย นับได้ว่าเป็นรองเท้าอีกหนึ่งดีไซน์ที่ควรมีติดบ้านไว้เลยค่ะ

ด้วยความเรียบง่ายนี้ จึงทำให้รองเท้าดูดีได้แบบไม่ต้องมีการแต่งลายมากมาย อีกทั้งยังช่วยเสริมให้รองเท้าดีไซน์นี้ดูสวยงามและสดอาดตาเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ยังคงเหมาะในการสวมใส่สำหรับงานพิธีทั้งแบบที่เป็นทางการและกึ่งทางการเช่นกัน เราจึงอยากแนะนำให้ยึดรองเท้าสไตล์นี้เป็นมาตรฐานรองจากดีไซน์ปลายตรงค่ะ

รองเท้าแบบสายคาดนี้ เป็นรองเท้าคัทชูที่ใช้สายคาดพร้อมตัวล็อกเพื่อช่วยในการสวมใส่ให้กระชับมากยิ่งขึ้น ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่ารองเท้าแบบร้อยเชือก จึงถือเป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม รองเท้าสไตล์นี้ยังไม่ค่อยเหมาะกับการสวมใส่ในงานที่เป็นทางการเท่าไรนัก เนื่องจาก หากเทียบกับรองเท้าแบบร้อยเชือกแล้วยังให้ความรู้สึกถึงความไม่เป็นทางการอยู่นั่นเองค่ะ

รองเท้าหัวแหลมปีกนกมีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง คือ การขึ้นรูปให้กลายเป็นลักษณะ W-Shaped และการเจาะรู้เพื่อความสวยงามและระบายอากาศไปในตัว ซึ่งรูปทรงแบบ W นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อปีกนก เพราะว่าตรงปลายรองเท้ามีลักษณะคล้ายกับปีกนกนั่นเอง โดยต้นกำเนิดของรองเท้าสไตล์นี้มาจากรองเท้าของคนงาน ซึ่งว่ากันว่า ที่มีการเจาะรูเยอะเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการระบายอากาศและน้ำเมื่อต้องสวมใส่เดินป่าหรือในพื้นที่เปียกระหว่างการทำงานค่ะ

ลักษณะเด่นของรองเท้าสไตล์นี้ก็ตามชื่อเลยค่ะ คือ มีการขึ้นรูปและเย็บให้เป็นทรงตัว U ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้าที่มีระบบการร้อยเชือกแบบเปิด มีต้นกำเนิดมาจากต่างประเทศ ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะมักใส่เพื่อไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน เช่น ตีกอล์ฟ ล่าสัตว์ หรือเดินทางไกล เป็นต้น

แม้ว่าการใส่รองเท้าสไตล์นี้ไปทำงานหรือออกงานจะไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่จากแนวทางการใช้งานดังกล่าว ทำให้หลายคนมีความรู้สึกว่า รองเท้าสไตล์นี้ไม่เหมาะกับการใช้ในงานทางการสักเท่าไร ดังนั้น เราจึงไม่ขอแนะนำให้ใช้ในงานสำคัญ ๆ ค่ะ

รองเท้าสไตล์นี้ จะไม่มีตัวช่วยในการปรับขนาดรองเท้าให้สวมใส่แน่นพอดีอย่างเชือกรองเท้าหรือสายคาด แต่นั่นก็ถือเป็นข้อดีเพราะช่วยให้คุณสวมใส่ง่ายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเชือกรองเท้าหลุด หรือการดึงสายคาดออกเพื่อถอดรองเท้า เพราะคุณสามารถสวมใส่และถอดออกได้อย่างอิสระ

แม้ว่ารองเท้าคัทชูแต่ละแบบอาจจะดูคล้ายคลึงกันไปเสียหมด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า รองเท้าคัทชูสำหรับผู้ชายมีให้เลือกมากมายหลายแบบจริง ๆ ซึ่งหลายคนคงได้ทราบแล้วว่า การเลือกรองเท้าให้ดีและเหมาะสมที่สุดจะต้องคำนึงถึงหลาย ๆ ปัจจัยเลย ไม่ว่าจะเป็น การใส่เพื่อออกงาน, การเลือกรุ่นที่สวมใส่ได้พอดีเพื่อความสะดวกสบาย ไปจนถึงการสวมใส่เพราะต้องการคุณสมบัติพิเศษของรองเท้าคัทชูคู่นั้น ๆ นอกจากนี้  การเลือกแบบที่สวมใส่ง่าย ไม่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดหรือเมื่อยล้าเมื่อต้องใ่ส่เป็นเวลานาน ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ควรคำนึงถึงสำหรับผู้ที่ต้องใส่รองเท้าคัทชูทำงานในทุก ๆ วันด้วยค่ะ

เห็นไหมล่ะคะว่า การเลือกรองเท้าคัทชูไม่ใช่เพียงเรื่องหยุมหยิมที่ควรมองข้าม เพราะหากเลือกได้ดีแล้วคุณก็จะสามารถใช้งานรองเท้าคัทชูคู่นั้นได้ตราบนานเท่าที่ต้องการเลยล่ะค่ะ ที่สำคัญ การเลือกรองเท้าให้เหมาะสมและเข้ากับการแต่งตัวของเรา ยังช่วยเสริมสร้างบุคคลิกและความประทับใจต่อผู้คนที่ได้พบเห็นคุณอีกด้วยนะคะ ดังนั้น มาให้ความสำคัญกับการเลือกรองเท้าคัทชูกันเถอะค่ะ