• รับส่วนลดสูงสุด 50% ดีลสุดคุ้ม - ประหยัดมากขึ้นด้วยคูปอง

กำลังค้นหา "หนังสือนิทาน" ?

New Arrivals

ตุ๊กตา บ้านตุ๊กตา บ้านตุ๊กตา

โปรโมชั่นส่วนลดมากมาย

รีบเลย! ข้อเสนอนี้จะจบลงในอีก:

สั่งซื้อเลยตอนนี้

ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ตามคุณพ่อคุณแม่ส่วนมากล้วนเจอกับปัญหาที่ลูกน้อยนอนหลับยากหรือไม่ยอมเข้านอน เพราะยังต้องการอยากเล่นสนุกอยู่ในตอนกลางคืน ซึ่งปัญหานี้ก็สร้างความลำบากใจให้กับผู้ปกครองหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียว การอ่านนิทานให้ลูกฟังเลยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณผู้ปกครองหลายคนนิยมใช้กันพอสมควรเพื่อจะช่วยกล่อมให้เจ้าตัวน้อยของเรานั้นได้ไปผจญภัยในความฝัน

ในการอ่านนิทานให้ลูกฟังนั้นนอกจากจะทำให้เด็กนอนหลับง่ายขึ้นแล้วยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างทักษะให้ตัวเด็กได้มากมายจนคุณอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ทักษะทางการจดจำ ทักษะด้านภาษา ช่วยกระตุ้นให้เกิดจินตนาการแก่ตัวเด็ก อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า EF (Executive Function) ที่มีผลต่อ IQ และ EQ ของเด็กได้ดีอีกด้วย

บทความในวันนี้ทีมงานเราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปพบกับวิธีการเลือกหนังสือนิทานที่ช่วยให้เด็กนอนหลับฝันดี ทั้งยังช่วยเสริมสร้างทักษะให้กับพวกเค้าในเวลาเดียวกันด้วย และที่สำคัญ เรามีหนังสือนิทานที่น่าสนใจ 10 อันดับมาแนะนำกันอีกด้วย ยังไงติดตามกันจนจบเลยนะครับ
ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงของการแนะนำหนังสือนิทาน เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปศึกษาข้อมูลที่จะช่วยทำให้เราทำเข้าใจเกี่ยวกับหลักในการเลือกหนังสือนิทานที่เหมาะสมต่อพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัยได้ง่ายขึ้นกันก่อน
ในการเล่านิทานให้ลูกตัวน้อยของเราฟังถือเป็นสิ่งที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านครอบครัวหลายสำนักว่านิทานนั้นเป็นสื่อกลางทางการสื่อสารที่ดีระหว่างคุณพ่อคุณแม่และเด็ก ช่วยให้ลูกของคุณมีสภาพจิตใจที่มั่นคงและช่วยควบคุมสภาพทางอารมณ์ให้เหมาะสมตามวัย
อย่างไรก็ตามผู้ปกครองหลายคนก็อาจมีความสงสัยว่าเราควรจะอ่านนิทานให้เด็กฟังช่วงอายุเท่าใหร่ดี? ในส่วนนี้ไม่มีการกำหนดเกณฑ์หรือความเหมาะสมครับ เราสามารถอ่านให้เด็กฟังได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 1 ปี โดยคุณผู้ปกครองอาจจะเริ่มสักราว ๆ ลูกน้อยของเราอายุได้ 6 เดือนขึ้นไป ถึงแม้เด็กทารกจะจดจำคำศัพท์ไม่ได้หรือไม่เข้าใจเนื้อหาที่เราอ่านให้ฟัง แต่ก็ส่งเสริมให้ตัวเด็กพัฒนาทักษะการแยกแยะเสียงที่ดีได้ครับ
เริ่มกันที่วัยทารก ซึ่งจะเป็นช่วงอายุที่ไม่เกิน 2 ขวบ
สำหรับช่วงวัยทารกนั้น นอกจากการเสริมสร้างทักษะทางเสียงโดยใช้เพลงประกอบจังหวะหรือการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง เรายังพัฒนาทักษะทางการมองเห็นให้กับตัวเด็กได้ โดยการเลือกหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบเรียบง่ายและสีสันสะดุดตา อาจจะเป็นภาพตัวการ์ตูน สัตว์ หรือผลไม้ก็ได้ ก็จะช่วยทำให้ลูกน้อยของเราเกิดความสนุกสนาน เพิ่มความคุ้นเคยในการจดจำสีและรูปทรง ถึงแม้จะเค้าจะยังไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องในนิทานนั้นต้องการสื่อถึงอะไรก็ตาม
ด้วยการรับรู้ผ่านทางการได้ยินและการรับรู้ผ่านการมองเห็นไปพร้อมกันนั้น จะช่วยกระตุ้นทำให้เด็กในวัยทารกเกิดการเรียนรู้ที่ดีและถ้าหากมีเสียงเพลงกล่อมเบา ๆ เป็นจังหวะจากคุณพ่อและคุณแม่ไปด้วยล่ะก็ จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นให้ลูกของเรานอนหลับได้สนิทมากขึ้นอย่างแน่นอน
ในช่วงอายุ 1 ปี ขอแนะนำให้ใช้หนังสือนิทานที่มีภาพประกอบกับการใช้คำสั้น ๆ พร้อมกับให้คุณพ่อคุณแม่อ่านออกเสียงกำกับและให้เด็กดูหนังสือไปด้วย เพื่อช่วยเสริมให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ไปทีละเล็กทีละน้อย โดยทำการอ่านคำซ้ำ ๆ กัน เพื่อให้คำนั้นเป็นวลีที่ติดหูเด็ก ซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้ตัวเด็กรับรู้ได้ว่า เมื่อคุณพ่อหรือคุณแม่นั้นเริ่มอ่านหนังสือนิทานให้ฟัง ก็หมายความว่านี่เป็นเวลาเข้านอนของเค้าแล้ว ถือว่าเป็นการช่วยสร้างนิสัยการนอนที่ดีให้กับลูกของเราด้วย
หลังจากผ่านพ้นวัยทารกและย่างเข้าสู่ก้าวแรกของวัยเด็กในช่วงอายุ 2 ปี โดยในช่วงวัยนี้เด็กจะมีพัฒนาการทางภาษาที่รวดเร็ว สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ผู้ปกครองสื่อได้มากขึ้น และแน่นอนว่าเด็กในวัยนี้ก็ยังคงมีความสนใจให้คุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือนิทานให้ฟังอยู่
สำหรับเด็กที่มีอายุอยู่ในช่วง 2 ขวบ จะเริ่มมีความซุกซนมากขึ้นต้องการอยากเล่นตลอดเวลาทำให้บางครั้งกว่าจะกล่อมหลับได้ผู้ปกครองก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร เราจึงต้องเลือกหนังสือนิทานที่มีเนื้อหาสนุกแต่เข้าใจได้ง่ายก็จะเป็นทางเลือกที่ดี และในขณะที่อ่านให้เด็ก ๆ ฟังก็ควรชวนให้เค้าดูภาพประกอบไปด้วย ที่สำคัญถ้าเป็นพล็อตเรื่องที่เค้าชอบด้วยก็จะดีมาก เพราะในช่วงอายุ 2 ปี เด็กจะเริ่มมีความชอบที่แตกต่างกันออกไปแล้ว ดังนั้น การที่เค้าได้ฟังนิทานเรื่องที่ชอบก็จะช่วยให้มีความสุขกับการนอนได้
ในช่วงอายุ 3 – 4 ขวบ ถือว่าเป็นช่วงที่เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้มาก ถ้าหากเราส่งเสริมให้เด็กมีความคิด มีจินตนาการหลากหลายมากขึ้นได้ก็ถือว่าดีทีเดียว แต่ก็ต้องระมัดระวังด้วย เนื่องจากว่าจินตนาการที่กว้างไกลของเด็กนั้นก็อาจทำให้ตัวเค้ากลัวสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยเช่นกัน เราสามารถเห็นได้จากเด็ก ๆ ที่มีจินตนาการถึงสิ่งแปลกประหลาดในตอนกลางคืนจนเกิดความกลัวทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน ดังนั้น การเลือกนิทานให้เด็กอ่านจึงต้องคำนึงถึงเนื้อหาที่เหมาะสม ไม่เปิดจินตนาการที่กว้างมากจนเกินไปหรือแปลกประหลาดสำหรับเด็กในวัยนี้มากจนเกินไป
นอกจากนี้ เราขอแนะนำว่าควรเป็นนิทานเรื่องสั้นที่สามารถอ่านให้จบได้ภายใน 5 นาที เพราะเด็กในช่วงอายุนี้จะยังมีสมาธิที่สามารถจดจ่อกับเนื้อหาของนิทานได้ค่อนข้างสั้นอยู่ หากเราใช้เวลาในการเล่านานเกินไป ก็อาจทำให้เด็กรู้สึกเบื่อและไม่อยากฟังเรื่องที่นิทานอีกในครั้งถัดไป
เมื่อถึงช่วงที่เด็กอายุย่างเข้า 5 ขวบ เป็นต้นไป ก็ถึงเวลาที่พวกเค้าจะต้องเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โรงเรียน และจะได้พบกับสังคมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งผลของการอ่านนิทานให้ลูกฟังนั้นสามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทางภาษาที่ดีได้ เพราะพวกเค้าจะได้พบกับคำศัพท์ ประโยคต่าง ๆ มากมายซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กอยากที่จะพูดคุยกับคนอื่น ๆ เพื่อหาความหมายในการสร้างบุคลิก กล้าแสดงออก และรู้จักการเข้าสังคมให้กับเค้าได้อย่างดี
การอ่านนิทานให้ฟังในช่วงวัยนี้ แนะนำว่าให้อ่านโดยให้ตัวเด็กมีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องด้วยก็จะดีไม่น้อย อาจจะสมมุติให้ลูกน้อยของคุณเป็นตัวเอกหรือตัวละครในเนื้อหาเพื่อให้เด็กมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวนั้น ถือเป็นกระบวนการที่จะช่วยให้เด็กเกิดการคิดตามเนื้อเรื่องว่า ถ้าเค้าเป็นตัวละครในเรื่องนี้ เค้าจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ และควรเลือกหนังสือนิทานที่แฝงข้อคิดหลังจบเรื่องให้ด้วยเพื่อเป็นการปลูกฝังให้เด็กค่อย ๆ ได้เรียนรู้เรื่องความถูกผิดได้มากขึ้น
จุดประสงค์หลักที่สำคัญในการอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังก็คือ การสร้างบรรยากาศที่น่าเชิญชวนแก่การนอนหลับของเด็ก ดังนั้น การเลือกเนื้อเรื่องของนิทานที่จะนำมาอ่านก็ถือว่ามีผลเช่นกัน แนะนำว่าควรเลือกเนื้อเรื่องที่มีความสนุกแบบเรียบง่าย ช่วยให้น้อง ๆ ผ่อนคลายเวลาฟัง ก็จะสามารถช่วยกล่อมเด็กให้หลับได้เร็วกว่าเนื้อเรื่องที่มีความตื่นเต้นชวนให้ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง และจะเป็นการดีไม่น้อยถ้าคุณผู้ปกครองอ่านด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังมีความนุ่มนวลอย่างช้า ๆ ไม่เร่งรีบในการอ่าน
อย่างไรก็ตาม หนังสือนิทานโดยส่วนมากนั้นมีการออกแบบพล็อตเรื่องมาเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการนอนหลับของเด็ก ในทางกลับกัน ถ้าหากเราได้เจอหนังสือนิทานที่นอกจากจะทำให้ตัวเด็กนอนหลับได้สบายแล้วยังช่วยให้ผู้ปกครองอย่างเรานอนหลับได้ง่ายขึ้น นับว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวที่คุ้มค่าเลย
การกล่อมให้เด็ก ๆ นอนหลับด้วยหนังสือนิทานนั้น นอกจากการจะมาจากการสัมผัสโสตประสาททางหูที่เด็ก ๆ จะได้ฟังเรื่องราวให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและผ่อนคลายจนหลับแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวช่วยได้ดีคือ การมีภาพประกอบที่ทำให้เด็ก ๆ ดูแล้วผ่อนคลายมากขึ้นไปอีก เช่น ภาพท้องฟ้า ดวงดาว หรือดวงจันทร์ยามค่ำคืน เป็นต้น ซึ่งภาพประกอบเหล่านี้ก็ยังมีมนเสน่ห์ที่จะช่วยขยายจินตนาการให้พวกเค้าเห็นภาพในเนื้อเรื่องที่สื่อได้มากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว จึงช่วยให้หลับง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ประโยชน์จากการดูภาพประกอบนั้นจะช่วยให้เด็กมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยให้เด็กลดความตื่นเต้นลงจากการเล่นมาตลอดทั้งวันอีกด้วย
หากใครต้องการฝึกทักษะการอ่านเรื่องราวเป็นภาษาจีนควรเริ่มจากเนื้อหาง่าย ๆ ก่อน โดยเรามักจะฝึกอ่านจากนิทานของเด็กเพราะมีเนื้อเรื่องที่สั้นกระชับ ส่วนของคำศัพท์ก็ไม่ยากจนเกินไป ไม่ทำให้ท้อกลางคันแน่นอน

วันนี้จึงอยากแนะนำหนังสือนิทานสอนใจพร้อมพินอิน หนังสือนิทานชุดนี้มีทั้งหมด 4 เล่ม สองภาษา (ไทย-จีน) เนื้อหาสั้น กระชับได้ใจความ ภาพประกอบสีสันสดใส ช่วยเสริมทักษะการอ่านภาษาจีนโดยมีพินอินกำกับ แบ่งแยกภาษาจีนและภาษาไทยไว้ชัดเจนเพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านมากยิ่งขึ้นค่ะ
มาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงจะได้ทราบถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ ของหนังสือนิทานที่มีต่อเด็ก ๆ กันไปแล้ว และเชื่อว่าคงจะมีคุณผู้ปกครองมากมายที่เริ่มอยากจะได้นิทานสักเรื่องสองเรื่องไปฝากคุณหนู ๆ ที่บ้านกันแล้ว ดังนั้น ทางทีมงานจึงได้คัดสรรหนังสือนิทาน 10 อันดับ มาเป็นตัวเลือกให้พิจารณากันในวันนี้ จะมีนิทานเล่มใดที่น่าสนใจบ้าง มาดูไปด้วยกันเลยครับ
เปิดตัวมาด้วยนิทานเรื่องยอดฮิตตลอดกาลที่เด็กทุกยุคทุกสมัยต้องเคยได้ยินกันมาหมด เน้นพล็อตเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ซับซ้อนสำหรับเด็ก ๆ แฝงข้อคิดให้กับเด็กในเรื่องของความพยายามและยังเสริมข้อคิดอื่น ๆ อีกหลากหลายแง่มุม เช่น เรื่องความไม่ประมาท การไม่ดูถูกผู้อื่น ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ต่อให้นำเอามาเล่าซ้ำก็ยังคงสนุกและให้ข้อคิดที่ดีกับคนทุกช่วงวัย จุดเด่นของเล่มนี้คือ มีเล่มขนาดใหญ่พิเศษสำหรับเด็กเล็ก พร้อมภาพและสีสันสวยงาม ทั้งยังใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายอีกด้วย
ในอันดับนี้จะเรียกว่านิทานก็ได้ จะเป็นคู่มือก็ไม่เชิง เนื่องจากภายในหน้าแรกและหน้าสุดท้ายของแต่ละเล่มจะสอดแทรกข้อมูลและคู่มือต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เด็ก ในส่วนของเนื้อหาเป็นเนื้อเรื่องนิทานที่เข้าใจได้ง่าย ปลูกฝังให้เด็กมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การแปรงฟัน การทานผัก เป็นต้น นอกจากนี้ มีการใช้ประโยคพูดเหมือนคำกลอนเพื่อช่วยถ่ายทอดเรื่องราว โดยให้คุณพ่อคุณแม่อ่านเป็นจังหวะเพลง เกิดความเพลิดเพลินแก่เด็กได้ดี ถือว่าเป็นนิทานตัวเลือกที่ช่วยเสริมเรื่องพื้นฐานในชีวิตประจำวันของน้อง ๆ ให้ง่ายขึ้น
เป็นนิทานคลาสสิกอีกหนึ่งเรื่องที่อยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนานซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกดัดแปลงเนื้อเรื่องมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ยังคงอิงตามแบบต้นฉบับเดิม เพื่อให้เข้าถึงเด็กได้อย่างเหมาะสม ภายในเนื้อเรื่องแสดงให้เด็กได้เห็นถึงผลที่ตามมาของความเกียจคร้าน เป็นข้อคิดช่วยปลูกฝังให้เด็กเห็นความสำคัญของการทำงานด้วยความมานะอดทน นำมาซึ่งผลแห่งความสำเร็จ นอกจากนี้ คุณผู้ปกครองสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะอ่านให้ลูกฟังเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย ถือเป็นอีกเรื่องที่เบาสมองสำหรับเด็กเล็กได้ดีเลย
นิทานสดใสครบเซ็ทที่จะช่วยให้คุณกับลูกใกล้ชิดอบอุ่นกันมากขึ้น ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานเล่มนี้จะเป็นการพาเด็ก ๆ เข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่กว้างไกล ผจญภัยไปบนฟากฟ้ากับเหล่า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวและอื่น ๆ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นตัวละครที่พูดได้ทั้งสิ้น พร้อมกับภาพประกอบที่มีการลงสีเฉพาะตัว คล้ายกับการใช้สีน้ำ ซึ่งจะช่วยให้น้อง ๆ สบายตา นอนหลับฝันดีทุกค่ำคืน ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนใดกำลังประสบปัญหากับเด็กเล็กที่นอนหลับได้ยากนิทานเล่มนี้อาจจะช่วยคุณได้เลย
‘เด็กเลี้ยงแกะ’ นิทานอีกหนึ่งเรื่องที่คลาสสิกตลอดกาล ไม่ว่าช่วงวัยไหนต้องเคยได้ฟังได้อ่านกันมาอย่างแน่นอน มีเนื้อหาที่ช่วยปลูกฝังเด็กตั้งแต่วัยเยาว์ด้วยข้อคิดเตือนใจจากเนื้อเรื่องว่าการโกหกนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี ถือว่าเป็นอีกเรื่องยอดฮิตที่ตามคุณครูที่โรงเรียนก็มักจะนำมาสอนกัน นิทานเล่มนี้มาในรูปเล่มแบบใหญ่พิเศษสำหรับเด็กเล็ก พร้อมด้วยภาพที่สวยงามน่ารักและสีสันสดใสเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ให้ชวนติดตาม และดำเนินเรื่องด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย รับรองว่าเด็ก ๆ สนุกแน่นอน
นิทานเล่มนี้มาพร้อมมีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการเล่าเรื่องผ่านตัวละครเด็กแต่ละคน โดยมีภาพประกอบที่น่ารัก สีสันสดใสให้ดูไปด้วย ความพิเศษคือ มีเนื้อหาที่คอยบ่มสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้ว่านิสัยที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครของแต่ละคนนั้นว่ามีผลเสียเป็นอย่างไรและควรปรับตัวเช่นใดไม่ให้มีนิสัยแบบนั้น เช่น การไม่มีวินัย การชอบคุยโม้ เป็นต้น ถือว่าเป็นนิทานอีกเล่มที่สามารถใช้เป็นตัวอย่างและแนวคิดที่ดีให้กับเด็ก ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมเลยทีเดียว
นิทานอมตะอีกเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้จักกันแน่นอน มาในรูปแบบ 2 เวอร์ชั่นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยสามารถเปิดอ่านได้ทั้ง 2 ด้าน นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินก่อนนอนแล้ว ยังช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาให้น้อง ๆ ไปด้วยในตัว มีการออกแบบภาพประกอบให้มีสีสันสดใส ช่วยให้เด็ก ๆ สบายตาและชวนให้ติดตาม ที่สำคัญ เล่มนี้มาพร้อมปากกาที่ทำให้นิทานออกเสียงได้เมื่อใช้คู่กัน จึงเพิ่มความสนุกให้เด็ก ๆ เป็นสองเท่า ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้จดจำได้เร็วขึ้นอีกด้วย
หนึ่งในนิทานที่จะช่วยสอนลูก ๆ และปลูกฝังให้เติบโตด้วยความฉลาดพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านสติปัญญา ทั้งด้านอารมณ์ ทั้งด้านศีลธรรมและจริยธรรมด้วยเรื่องราวจากนิทานชาดก 50 เรื่อง ซึ่งเชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนน่าจะทราบกันดีว่า นิทานชาดกเป็นเรื่องราวอดีตของพระพุทธเจ้า ซึ่งในแต่ละเรื่องราวนั้นก็จะแฝงไปด้วยหลักธรรมต่าง ๆ ที่นำไปใช้ได้จริง และช่วยเป็นคติเตือนใจให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความกตัญญู ความสามัคคี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน ชวนให้ติดตามอีกด้วย
หนังสือนิทานอีสปที่อัดแน่นเรื่องราวสนุก ๆ มาให้คุณลูกมากถึง 50 เรื่อง รับรองว่าน้อง ๆ ฟังได้แบบไม่มีเบื่อ เป็นนิทานที่มาพร้อมคติเตือนใจที่เด็กสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้ พร้อมความพิเศษด้วยการบรรยายเรื่องราว 2 ภาษา ที่จะช่วยให้คุณหนู ๆ อัพสกิลภาษาได้เป็นอย่างดี และมีภาพประกอบสุด Epic เชิงสดใสที่จะส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการสุดกว้างไกล อีกทั้งนิทานเล่มนี้ยังมี CD บรรยายเนื้อหาแถมมาให้ด้วย และแน่นอนว่าเป็นเสียง 2 ภาษาให้เสริมทักษะอีกเช่นกัน
มาถึงนิทานอันดับ 1 ยอดฮิตเล่มนี้ที่อัดแน่นด้วยนิทานอีสปที่มีเรื่องราวไม่ซ้ำกันมากถึง 202 เรื่อง ทำให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินได้ในทุก ๆ คืนโดยไม่เบื่อเรื่องราวเดิม ๆ โดยนิทานแต่ละเรื่องมีเนื้อหาที่รวบรับเข้าใจได้ง่ายจบในหน้าเดียวพร้อมภาพการ์ตูนประกอบน่ารัก สดใสสไตล์ 2D ที่เข้ากับเด็กได้อย่างลงตัว จุดเด่นของนิทานเล่มนี้คือ มีการเสริมแง่คิดและคติสอนใจให้เด็กคิดตามไปด้วยมากมายจากหลากหลายสถานการณ์ คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถนำใช้เป็นสื่อในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมของเด็กได้ดีอีกด้วย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า นิทานนั้นมีส่วนช่วยให้เด็กเกิดความเพลิดเพลินและผ่อนคลายได้ดี แต่นอกเหนือจากการอ่านนิทานให้ลูกฟังจนจบแล้ว ผู้ปกครองยังสามารถฮัมเพลงกล่อมเด็กประกอบให้น้อง ๆ ได้ด้วยเสียงที่อ่อนนุ่มและทำนองที่นุ่มนวล เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกถึงสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอุ่นใจที่จะหลับตาลงนอน เพียงเท่านี้เราก็สามารถบอกราตรีสวัสดิ์ลูกน้อยให้เค้าฝันดีได้อย่างหมดห่วงแล้ว
ภารกิจของเราในวันนี้ก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สำหรับการแนะนำนิทานที่น่าสนใจให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ได้ชมกัน ทุกคนคงพอจะทราบกันดีว่า นิทานแต่ละเรื่องนั้นเป็นเนื้อเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อสร้างคติสอนใจไปใช้ในชีวิตประจำวันให้กับเด็ก ๆ ได้ และถึงแม้จะเป็นแค่การเลือก “นิทาน” ให้ลูก ๆ แต่การคำนึงถึงประโยชน์แฝงในด้านข้อคิดที่ได้ หรือความรู้ที่อาจเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของเด็กคนนึงจนเขาเติบโตนั้นเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
ดังนั้นประโยชน์จากการคัดสรรนิทานให้เหมาะกับเด็กนั้น ไม่ได้มีประโยชน์แค่การกล่อมนอน แต่ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีและปลูกฝังความคิดหรือจริยธรรมดี ๆ ให้กับพวกเค้าได้อีกด้วย ในบทความถัดไปเราจะสรรหาสิ่งดีดีมามอบให้คุณผู้ปกครองทุกท่านได้อ่านกันอีก ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะครับ