• รับส่วนลดสูงสุด 50% ดีลสุดคุ้ม - ประหยัดมากขึ้นด้วยคูปอง

กำลังค้นหา "กลองไฟฟ้า" ?

New Arrivals

ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านดนตรีได้ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวไกล โดยเฉพาะเครื่องดนตรีทั่วไปที่ได้การพัฒนาให้กลายเป็นครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Instruments) ไปแล้วแทบจะทุกชนิด หรือที่เราเรียกกันว่า " เครื่องดนตรีไฟฟ้า " นั่นเอง และหนึ่งในเครื่องดนตรีไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากเหล่านักเล่นดนตรี นั่นก็คือ " กลองไฟฟ้า " ซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่หลายรูปแบบจากหลากหลายผู้ผลิต ทำให้มือกลองหลายคนตัดสินใจได้ยากในการเลือกซื้อ


วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ วิธีการเลือกกลองไฟฟ้า พร้อมกับแนะนำกลองไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ทั้งหมด 10 รุ่นที่ได้รับความนิยม มีคุณภาพและหาซื้อทางออนไลน์ได้อย่างง่าย ๆ หากคุณกำลังคิดที่จะซื้อหรือใช้กลองไฟฟ้าแทนการใช้กลองชุดทั่วไปอยู่ล่ะก็ ลองติดตามเนื้อหาในบทความนี้ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาได้เลยครับ !

อันดับแรก คือ เรื่องของขนาด เนื่องจากกลองไฟฟ้ามีขนาดที่ค่อนข้างเล็กกว่ากลองชุดทั่วไป ทำให้ ช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของพื้นที่จนทำให้ไม่สามารถติดตั้งกลองชุดทั่วไปได้ ตัวอย่างเช่น ต้องการมีไว้ฝึกซ้อมที่บ้าน หรือวงดนตรีสดตามร้านอาหารขนาดเล็ก กลองไฟฟ้าจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักดนตรีเลือกใช้งานแทนกลองชุดทั่วไป ทำให้มือกลองหลายคนเปลี่ยนจากการใช้กลองชุดแบบปกติมาเป็นการใช้กลองไฟฟ้าในการแสดงคอนเสิร์ตหรือการแสดงสดตามสถานที่ต่าง ๆ


และด้วยความที่เป็นเครื่องดนตรีไฟฟ้า จึง มีคุณสมบัติในการปรับแต่งฟังก์ชันต่าง ๆ ได้มากกว่ากลองชุดปกติ เริ่มตั้งแต่ฟังก์ชันฝึกใช้งานกับเครื่องเคาะจังหวะ (Metronome) หรือการ ปรับแต่งเสียงและเอฟเฟกต์ของกลองได้อย่างหลากหลาย ตามใจชอบ รวมไปถึงลักษณะการวางตำแหน่งต่าง ๆ ของกลองแต่ละชิ้น เพื่อให้เหมาะสมกับแนวทางการเล่นดนตรีที่คุณต้องการเล่น โดยเฉพาะกลองไฟฟ้าที่มีราคาสูง จะยิ่งมีความสามารถในการปรับแต่งหรือตั้งค่ากลองให้สมจริงได้มากยิ่งขึ้น


นอกจากจะใช้งานบนคอนเสิร์ตหรือแสดงสดได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนกลองปกติแล้ว กลองไฟฟ้ายังถือว่าเป็นเครื่องดนตรีที่นักดนตรีตั้งแต่ระดับฝึกหัดไปจนถึงระดับมืออาชีพเลือกใช้ในการฝึกซ้อม โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ต้องการสร้างเสียงรบกวนให้กับเพื่อนบ้าน เนื่องจากคุณสามารถฝึกซ้อมได้โดยที่ไม่เกิดเสียงดังเหมือนกลองชุดแบบปกติ เพียงแค่ทำการเสียบหูฟังมอนิเตอร์เข้ากับแผงโมดูล เพียงเท่านี้ ไม่ว่าคุณจะตีแรงมากเพียงใด เสียงกลองเหล่านั้นก็จะออกมาทางหูฟังมอนิเตอร์ของคุณเท่านั้นครับ

หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์ของกลองไฟฟ้ากันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันเลยครับว่า เคล็ดลับและวิธีการเลือกกลองไฟฟ้าจะมีอะไรบ้าง !

กลองไฟฟ้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ กลองไฟฟ้าตั้งโต๊ะ (Table-top Electronic Drum) หรือที่มักจะเรียกกันว่า กลองไฟฟ้าแบบแป้น (Drum Pad) และกลองไฟฟ้าแบบชุด (Electronic Drum Kits) ซึ่งจะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ !

กลองไฟฟ้าตั้งโต๊ะ (Table-top Electronic Drum) หรือกลองไฟฟ้าแบบแป้น (Drum Pad) เป็นกลองไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก สามารถใช้ได้หลากหลายโอกาส หรือใช้ในสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัดได้อย่างดีเยี่ยม โดยหน้ากลองจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมหรือวงกลม ผลิตจากยาง นอกจากนี้ ยังมีแผงควบคุมสำหรับปรับลักษณะของเสียงกลองต่าง ๆ หรือระดับเสียงตามที่คุณต้องการได้อย่างอิสระ


โดยในบางรุ่นจะมาพร้อมกับฟังก์ชันเคาะจังหวะและโหมดฝึกหัดภายในตัว เพื่อใช้สำหรับการฝึกฝนทักษะการตีกลองของคุณให้คุ้นเคยและใช้งานกลองประเภทนี้ได้อย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ที่เคยชินกับการตีกลองชุดแบบปกติอาจจะต้องปรับตัวกับการใช้กลองไฟฟ้าชนิดนี้นั่นเองครับ


กลองไฟฟ้าชนิดนี้ เหมาะสำหรับการซ้อมดนตรีคนเดียวในพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ไปจนถึงการเล่นเป็นวงดนตรีแบบเต็มวง ซึ่งเล่นได้ตั้งแต่แนวโฟล์คซองไปจนถึงแนวร็อกเลยทีเดียวครับ แต่เมื่อเทียบกับกลองชุดแบบปกติ หรือกลองไฟฟ้าแบบชุดแล้ว ก็ต้องบอกว่าประสิทธิภาพและสัมผัสในการเล่นอาจจะยังสู้ไม่ได้ ส่งผลให้มือกลองหลายคนทำความคุ้นเคยกับกลองไฟฟ้าชนิดนี้ได้ยากครับ

กลองไฟฟ้าแบบชุด ถือว่าเป็นประเภทของกลองไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เนื่องจากมีลักษณะการจัดวางตำแหน่งกลองที่คล้ายกับกลองชุดแบบปกตินั่นเองครับ จุดเด่นของกลองไฟฟ้าแบบชุด คือ สามารถปรับลักษณะการใช้งานได้หลากหลายบนแผงควบคุม ซึ่งความหลากหลายของการปรับแต่งนั้น ส่วนใหญ่มักจะอ้างอิงกับราคาของกลองเป็นหลัก ยิ่งมีราคาสูงมากเท่าใด ก็ยิ่งปรับแต่งได้หลากหลาย และให้สัมผัสเหมือนการตีกลองชุดแบบปกติมากขึ้นเท่านั้น


แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่มีราคาที่ไม่สูงมากแต่ก็ยังปรับแต่งได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ความหลากหลายของการปรับแต่งจะลดน้อยลง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จะปรับได้เพียงลักษณะของชุดเสียงเท่านั้น เช่น เสียงกลองชุดแบบร็อก หรือกลองชุดแบบแจ๊ส เป็นต้น


กลองไฟฟ้าแบบชุดเหมาะสำหรับการฝึกซ้อมในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด โดยต่อกับแอมป์ขยายเสียงของกลองไฟฟ้าทั่วไป หรือหากไม่ต้องการสร้างเสียงรบกวนผู้อื่น ก็เพียงแต่ใช้ร่วมกับหูฟังมอนิเตอร์เพื่อฟังเสียงกลองคนเดียวก็ได้ นอกจากนี้ หลาย ๆ รุ่นยังเหมาะสมที่จะใช้เล่นในคอนเสิร์ตหรือการแสดงสดได้อย่างดีเยี่ยม โดยที่ไม่ได้ด้อยความสามารถแต่อย่างใด บางรุ่นอาจจะทำได้ดีกว่ากลองชุดแบบปกติเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากความสามารถในการปรับแต่งที่หลากหลายของกลองไฟฟ้าแบบชุดนั่นเองครับ

วัสดุของหน้ากลองไฟฟ้า ส่งผลอย่างมากต่อความรู้สึก และอารมณ์ร่วมในการตีกลอง ซึ่งวัสดุของหน้ากลองไฟฟ้านั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ หน้ากลองแป้นยางและหน้ากลองหนังมุ้งครับ

กลองไฟฟ้าแบบชุดที่มีหน้ากลองแบบแป้นหนังยางจะ มีราคาที่ประหยัด กว่าหน้ากลองหนังมุ้ง จึงทำให้ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกตีกลองชุด โดยใช้กลองไฟฟ้าเป็นหลัก หรือมือกลองมืออาชีพก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน เพื่อฝึกความคุ้นเคยในการตีกลองชุด เนื่องจากมีการวางตำแหน่งของชิ้นกลองต่าง ๆ คล้ายกับกลองชุดแบบปกติ


นอกจากนี้ ยังเ หมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ที่จำกัด เพราะกลองไฟฟ้าที่ใช้หน้ากลองแบบแป้นยางจะมีขนาดที่เล็กกว่ากลองไฟฟ้าหน้ากลองหนังมุ้ง ซึ่งทำให้การติดตั้ง จัดเก็บ รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายก็ทำได้ง่ายกว่าด้วย


แต่ข้อเสียของแป้นยางก็คือ ให้อารมณ์ สัมผัสในการตี และน้ำหนักของการลงไม้กลองได้ไม่สมจริงเหมือนกับกลองชุดแบบปกติซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักดนตรีที่ต้องแสดงสดหรือออกคอนเสิร์ตอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงฟังก์ชันของการปรับแต่งต่าง ๆ ก็มักจะถูกจำกัดไปด้วย เนื่องจากกลองไฟฟ้าที่ใช้แป้นหนังยางจะมีราคาที่ประหยัด ทำให้ส่วนมากปรับได้แค่ชนิดของกลองชุด ระดับเสียงของกลอง และลักษณะของเสียงกลองเพียงบางส่วนเท่านั้น

กลองไฟฟ้าแบบชุดที่มี หน้ากลองชนิดหนังมุ้ง มักจะถูกใช้งาน สำหรับมือกลองระดับอาชีพ หรือคนที่มีงบประมาณที่เพียงพอ เนื่องจากกลองไฟฟ้าชนิดนี้จะมีราคาที่สูงกว่าหน้ากลองแป้นยาง เพราะวัสดุที่ใช้ผลิตมีความซับซ้อน ปรับแต่งได้หลากหลาย ให้น้ำหนักของการลงไม้และความรู้สึกที่สมจริงเหมือนกับการตีกลองชุดปกติมากกว่านั่นเองครับ


กลองไฟฟ้าหน้ากลองหนังมุ้ง มักจะ มาพร้อมกับฟังก์ชันที่จัดเต็ม ปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไดนามิกของหน้ากลองให้สามารถลงไม้ได้อย่างสมจริงและชินมือตามต้องการ หรือการปรับเสียงเคาะบริเวณขอบของหน้ากลองให้มีเสียงที่เหมือนกันกับกลองชุดแบบปกติ ทั้งยังปรับเป็นเสียงอื่น ๆ ตามใจคุณได้อีกด้วย


นอกจากนี้ แผงควบคุมหรือโมดูลยังปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงก้อง เสียงสะท้อน ความแน่นของเสียง การแยกลักษณะของเสียงกลองตามแต่ละประเภทดนตรีได้แบบใบต่อใบ รวมไปถึงชิ้นกลองอื่น ๆ เช่น กระเดื่อง แฉ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกลองชุดแบบปกติเลยทีเดียว กลองไฟฟ้าหน้ากลองหนังมุ้งนี้จึงสามารถใช้เล่นในคอนเสิร์ตหรือการแสดงสดทั่วไป ไปจนถึงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ที่มีผู้ชมจำนวนมากได้อย่างไม่มีปัญหา เทียบเท่าหรือทำได้ดีกว่ากลองชุดแบบปกติในหลาย ๆ รุ่นเลยครับ

แผงควบคุมกลองไฟฟ้า หรือ "โมดูล (Module)" คือหัวใจหลักของกลองไฟฟ้า เพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์ชนิดนี้ กลองไฟฟ้าของคุณก็จะไม่สามารถทำงานได้ โดยหน้าที่หลักของโมดูลก็คือ การรวบรวมสัญญาณกลองผ่านพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ และนำมาประมวลผลหรือควบคุมผ่านการตั้งค่าตามที่คุณต้องการ


การสังเกตปุ่มตั้งค่าต่าง ๆ บนโมดูลของกลองไฟฟ้า ยังช่วยให้ทราบถึงฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่กลองไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั้นมีได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การปรับแต่งรูปแบบของกลองชุด การปรับเสียงกลองแยกแต่ละใบ การปรับเอฟเฟกต์ การปรับโทนเสียง เมโทรนอม เดโม การบันทึกเสียง เป็นต้น ดังนั้น ยิ่งมีปุ่มต่าง ๆ บนโมดูลมากเท่าไร กลองไฟฟ้ารุ่นนั้นก็จะมีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้จำนวนปุ่มบนโมดูลที่มีมาก ก็จะทำให้ปรับหรือตั้งค่าต่าง ๆ ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ

คุณสมบัติหรือพอร์ตการเชื่อมต่อของกลองไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการบันทึกเสียงกลองไฟฟ้าตรงไปยังคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้งานกับซอฟต์แวร์บันทึกเสียงหรือแต่งเพลง (DAW) พอร์ตการเชื่อมต่อที่ต้องมีก็คือ " พอร์ต MIDI USB " นอกจากนี้ พอร์ตอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะทำให้กลองไฟฟ้าของคุณมีฟังก์ชันพิเศษที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นครับ


หากโมดูลมี พอร์ต AUX IN ก็จะทำให้กลองไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหรือไมโครโฟนได้ เพื่อทำการบันทึก เปิดเพลงพื้นหลังหรือปรับแต่งเสียงพิเศษเพิ่มเติมให้มีความหลากหลายมากขึ้น และในกลองไฟฟ้าบางรุ่นยังมีพอร์ตพิเศษอย่าง SD Card และ USB ซึ่งช่วยให้กลองไฟฟ้านำเพลงหรือชุดเสียงต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ภายนอก มาปรับแต่งและใช้งานกับกลองไฟฟ้ารุ่นนั้น ๆ ได้อีกด้วย


นอกจากนี้ คุณจะไม่สามารถฟังเสียงของกลองไฟฟ้าได้ทันที หากไม่มีหูฟังหรือแอมป์มอนิเตอร์ ดังนั้น พอร์ต Headphones (AUX 3.5mm) ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อหูฟังมอนิเตอร์ และ พอร์ต Output ที่มีไว้สำหรับเชื่อมต่อกับแอมป์หรือลำโพงมอนิเตอร์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากครับ

หลังจากที่ได้ทำการศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการเลือกกลองไฟฟ้ากันไปแล้ว ต่อไปมาดูกันเลยครับว่า กลองไฟฟ้าทั้งหมด 10 อันดับ จะมีรุ่นใดน่าสนใจบ้าง !

ถึงแม้ว่าจะให้ความรู้สึกได้ไม่เท่ากับกลองแบบปกติ หรือกลองไฟฟ้าที่มีราคาสูง แต่ก็ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองสัมผัสถึงลักษณะการทำงาน และรูปแบบเสียงของกลองไฟฟ้าเบื้องต้น ว่ามีการทำงานอย่างไร โดยมีจำนวนแป้นกลองถึง 9 ชิ้น พร้อมกับ Sustain Pedal อีก 2 ชิ้น ที่ตั้งค่าให้เป็นกระเดื่องได้ โดยมีสไตล์กลองของแนวดนตรีให้เลือกถึง 3 แนวเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เสียบสาย Micro USB เข้ากับหม้อแปลงจ่ายไฟ และเชื่อมต่อหูฟังมอนิเตอร์หรือแอมป์ ก็สามารถทำงานได้ทันทีครับ

นี่คือกลองชุดไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกหัด หรือแม้แต่มือกลองระดับอาชีพหลาย ๆ คน ก็เลือกที่จะใช้กลองชุดไฟฟ้ารุ่นนี้ในการฝึกซ้อมที่บ้านด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีขนาดที่เล็ก มีราคาเข้าถึงได้ง่าย และยังมาพร้อมกับสแนร์หนังมุ้งที่ให้สัมผัสที่คล้ายสแนร์จริง พร้อมแป้นกล้องอื่น ๆ รวมถึง 8 ชิ้น ซึ่งถือได้ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการฝึกหัดหรือฝึกซ้อม นอกจากนี้ ยังมีสไตล์กลองของแต่ละแนวดนตรีให้เลือกถึง 12 แนวเลยทีเดียวครับ

ถือได้ว่าเป็นรุ่นประหยัดสำหรับกลองไฟฟ้าซีรีส์ DTX ที่คุ้มค่าตัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าแป้นกลองทุกใบจะเป็นยาง แต่ก็ทดแทนด้วยฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ที่หาไม่ได้จากกลองรุ่นอื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน DTX402 Touch เพื่อปรับแต่งเสียงกลอง และตั้งโปรแกรมฝึกซ้อม หรือแอปพลิเคชัน Rec'n'Share สำหรับการบันทึกเสียงกลองที่คุณได้ตีไป และแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสแนร์ 3 โซน ที่แม้จะเป็นแป้นยางแต่ช่วยให้ตีได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

ถือได้ว่าเป็นกลองชุดไฟฟ้าในระดับมาตรฐานเหมือนกลองชุดปกติ เนื่องจากมีจำนวนแป้นกลองให้มาครบครันถึง 9 ชิ้น โดยทำการเพิ่ม Ride เข้ามานั่นเอง และยังพิเศษด้วยสแนร์หนังมุ้งที่สามารถตีได้ถึง 3 โซน และแฉ 2 โซนด้วยกัน ทำให้สร้างความรู้สึกของการตีกลองได้อย่างสมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีชุดเสียงกลองให้ปรับแต่งถึง 25 ชุด และปรับชุดเสียงพร้อมกับเอฟเฟกต์และโทนต่าง ๆ แยกใบได้ และพิเศษด้วยช่องใส่ SD Card เพื่อนำเข้าไฟล์ดนตรีจากภายนอกได้อีกด้วยครับ

ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ สำหรับกลองในซีรีส์ DTX ที่คราวนี้เพิ่มเติมสแนร์หนังมุ้งเข้ามา พร้อมกับแป้นกลองทุกชิ้นที่สามารถตีได้ถึง 3 โซน ราวกับตีกลองชุดแบบปกติ แม้จะเป็นแป้นยางก็ตาม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเมโทรนอม ที่ใช้งานร่วมกับฟังก์ชันฝึกซ้อมได้ ซึ่งโมดูลมีความพิเศษที่การจัดเรียงปุ่มที่ช่วยให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับมือใหม่ และยังแต่งเสียงกลองแบบแยกใบได้ พร้อมชุดกลองที่มีมาให้ถึง 50 ชุดเลยทีเดียวครับ

ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะตีได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้นเพราะกลองหลักทุกชิ้นเป็นหนังมุ้ง ช่วยให้ปรับความตึงและหย่อนของหน้ากลองได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังปรับแต่งเอฟเฟกต์และโทนเสียงของหน้ากลองแต่ละใบได้ง่าย ด้วยปุ่มหมุนปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ที่หลากหลาย และยังพิเศษด้วยช่องเชื่อมต่อ USB Drive ที่มีไว้เพื่อไฟล์นำเข้าเสียงหรือเพลงจากภายนอก เพื่อสร้างการฝึกซ้อมหรือการตีกลองของคุณเพลิดเพลินได้มากยิ่งขึ้นครับ

นี่คืออีกหนึ่งกลองชุดไฟฟ้าระดับมืออาชีพในราคาที่จับต้องได้ ที่ใครก็ต่างหมายปอง เนื่องจากให้จำนวนชิ้นกลองมาครบครันตามมาตรฐานถึง 9 ใบ และกลองหลักที่เป็นหนังมุ้งทุกใบ มีไดนามิกส์ เสียงดังเบาตามน้ำหนักของไม้กลองที่ลง และยังสมจริงมากขึ้นด้วยสแนร์, ทอม และแฉ ที่ตีได้ถึง 2 โซน ส่วน Ride ตีได้ถึง 3 โซนและยังรองรับการใช้งานกระเดื่องคู่ นอกจากนี้ยังปรับแต่งได้ง่ายด้วยโมดูลที่มีปุ่มหมุนปรับเอฟเฟกต์แยกแต่ละปุ่ม เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เล่นดนตรีสดได้จริงครับ

ถือว่าเป็นกลองไฟฟ้าระดับมืออาชีพรุ่งรองท็อปของซีรีส์ DTX ที่นำไปเล่นคอนเสิร์ตหรืองานแสดงสดได้อย่างดีเยี่ยม เพราะหน้ากลองเป็นหนังมุ้งทุกใบ แม้กระทั่งแป้น Bass Drum ทำให้ได้ไดนามิกส์ในการลงน้ำหนักที่สมจริงบนกลองทุกชิ้น รวมถึงสัมผัสที่เหมือนกลองชุดแบบปกติอย่างเต็มที่ เนื่องจากทั้ง สแนร์, ทอม และแฉ ที่ตีได้ถึง 3 โซน นอกจากนี้ ยังมีชุดตัวอย่างเสียงกลองให้ปรับแต่งถึง 500 เสียง ตอบโจทย์ทุกสไตล์การตี และเล่นได้ทุกแนวเพลงสบายหายห่วงครับ

เรียกได้ว่าเป็นกลองไฟฟ้าประเภท Drum Pad ที่ใคร ๆ ก็อยากได้มาครอบครอง โดยเริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่ออกแบบส่วนต่าง ๆ ของกลองได้อย่างลงตัว เริ่มต้นที่แป้นขนาดเล็กและยกสูงกว่าแป้นกลองขนาดใหญ่อื่น ๆ เพื่อมีไว้สำหรับตั้งค่าให้เป็นแฉหรือ Ride โดยเฉพาะ และใต้แป้นกลองทุกใบยังมีไฟ LED สุดล้ำ ที่ปรับสีได้ตามใจชอบ ช่วยสร้างบรรยากาศในระหว่างการตีกลองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีชุดเสียงตัวอย่างให้ปรับใช้ถึง 8,000 เสียง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการตัดแต่งเสียงได้ตามต้องการภายในบริเวณโมดูลได้ครบเสร็จสรรพ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เลยครับ

นี่คือหนึ่งในกลองชุดไฟฟ้าที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ในบรรดากลองชุดไฟฟ้าตัวท็อปอีกหลาย ๆ รุ่น เริ่มตั้งแต่กลองหนังมุ้งทุกใบ และแฉที่ตีได้ครบทั้ง 3 โซน มีไดนามิกส์และให้เสียงที่สมจริง ชนิดที่ว่าใกล้เคียงหรือทำได้ดีกว่ากลองชุดปกติในอีกหลาย ๆ รุ่นเป็นอย่างมาก พร้อมชุดเสียงกลองที่มีให้ปรับแต่งถึง 1,300 เสียง และโมดูลที่มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ครบครัน ช่วยให้ตั้งค่าได้ง่าย ไม่สับสน นอกจากนี้ ยังพิเศษยิ่งขึ้นไปอีกด้วยฟังก์ชันผสมเสียงกลอง ซึ่งทำให้คุณสามารถตั้งค่าหน้ากลองของคุณให้ออกมาสองเสียง โดยการตีเพียงแค่ครั้งเดียวนั่นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับวิธีการเลือกพิจารณาเลือกซื้อ ความแตกต่างของกลองไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงกลองไฟฟ้าทั้งหมด 10 อันดับ ที่เราได้นำมาเสนอให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันในครั้งนี้ กลองไฟฟ้าแต่ละชนิด และแต่ละวัสดุ ก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณ ซึ่งเราขอรับรองได้เลยว่า กลองไฟฟ้าที่เราได้นำมาเสนอในบทความนี้มีคุณภาพและการใช้งานที่ดีเยี่ยม คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพก็สามารถศึกษารุ่นที่เรานำมาเสนอได้อย่างแน่นอนครับ


ทีมงานมายเบสท์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อ และเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้งานกลองไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์ของการใช้งานของคุณได้อย่างคุ้มค่าที่สุดนะครับ