เลือกประเภทที่เหมาะสำหรับการใช้งาน ขาตั้งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบขาเดียวหรือแบบ Monopod และแบบ 3 ขาหรือแบบ Tripod โดยแบบ Monopod จะเหมาะสำหรับการใช้แบบเคลื่อนที่ สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ส่วนแบบ Tripod จะมีขาตั้งกางออก 3 ขา สามารถปรับได้หลายระดับ แต่จะมีแกนกลางสั้นกว่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง

เลือกความยาวขนาดที่ต้องการ ความยาวของขาตั้งมีหลายระดับ มีตั้งแต่ความยาว 1 – 2 ท่อน หรือยาวกว่า 5 ท่อนก็มี โดยท่อนสั้นจะเหมาะสำหรับการใช้งานแบบพกพาหรือออกทริป เช่น เข้าป่า ขึ้นดอย ฯลฯ ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นหลัก ส่วนแบบยาวจะเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือการใช้ถ่ายแบบมืออาชีพ

เลือกวัสดุที่แข็งแรงไว้ก่อน เพราะกล้อง DSLR เป็นกล้องที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เมื่อใส่เลนส์เข้าไปแล้วจะยิ่งหนักมากขึ้น จึงควรเลือกขาตั้งที่มีความทนทาน แข็งแรง และใช้วัสดุอย่างดี โดยวัสดุที่นิยมใช้ได้แก่ โลหะและอโลหะ โดยโลหะจะมีความทนทานและแข็งแรงมากกว่า แต่ข้อเสียคือค่อนข้างหนัก ส่วนอโลหะจะมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย แต่แข็งแรงน้อยกว่า

เลือกน้ำหนักที่เหมาะสมกับการใช้งาน หากใช้งานแบบเคลื่อนที่บ่อย เช่น การออกทริป หรือใช้สำหรับเดินทาง ควรเลือกแบบที่มีน้ำหนักเบา เพราะจะช่วยให้พกพาได้สะดวกมากกว่า

เลือกจากประเภทของหัว โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ แบบหัวบอล (Ball Head), แบบหัวแพน (Pan & Tilt), แบบ Pistol Grip และแบบ Fluid Video แต่ละชนิดแตกต่างกันดังนี้

1. แบบหัวบอล ( Ball Head) หมุนได้มากถึง 360 องศา สามารถหมุนปรับได้อิสระ ใช้งานง่าย และมีน้ำหนักเบา
2. แบบหัวแพน ( Pan & Tilt) สามารถหมุนปรับได้ 3 ทิศทาง โดยมาพร้อมกับหัวปรับ 3 แบบ สามารถปรับขึ้น – ลง, ก้ม – เงย, ซ้าย – ขวา และหมุนแพนได้ เหมาะสำหรับการใช้ถ่ายวิดีโอ
3. แบบ Pistol Grip ควบคุมการทำงานผ่านด้ามจับด้วยการบีบด้ามจับแล้วหมุนปรับไปตามต้องการ
4. แบบ Fluid Video ออกแบบมาสำหรับการถ่ายวิดีโอ โดยสามารถควบคุมการถ่ายได้นิ่งและลื่นไหลกว่าแบบอื่น

มีคุณภาพดีเหมาะสมกับราคา ขาตั้งที่เลือกควรมีคุณภาพดีและเหมาะสมกับราคา เพราะซื้อครั้งเดียวก็ใช้งานได้นานหลายปี จึงควรซื้อสินค้าที่มีคุณภาพดีไว้ก่อน

มีขาทราย ขาทรายคือขาด้านล่างของขาตั้ง บางรุ่นมีมาพร้อมกับขาตั้ง บางรุ่นมีให้มาต่างหาก บางรุ่นซ่อนอยู่ด้านในขาตั้ง มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหัวแหลมเหมือนลูกข่าง ใช้สำหรับยึดเกาะพื้นเพื่อช่วยยึดถ่วงน้ำหนักไม่ให้ขาตั้งล้มเมื่อเจอลมแรง ๆ

ปรับแกนกลางเท่าที่จำเป็น สำหรับ ขาตั้งกล้อง แบบ 3 ขา แกนกลางทำหน้าที่หลักในการรับน้ำหนักกล้อง จึงควรปรับแกนกลางเท่าที่จำเป็น ไม่ควรปรับให้สูงมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนได้ เนื่องจากกล้องมีน้ำหนักมาก จะทำให้น้ำหนักไม่สมดุล หากต้องการเพิ่มความสูงควรปรับขนาดจากขาตั้งแทน

กางขาตั้งด้วยการดึงจากท่อนบนลงล่าง ขาตั้งจะออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ไล่ลงไปเล็ก การเพิ่มความยาวด้วยการกางขาตั้งท่อนบนออกก่อนจะช่วยให้ขาตั้งรับน้ำหนักได้ดีและสมดุลมากกว่าการดึงจากท่อนล่าง

ถ่ายกลับหัวได้ สำหรับการภาพหรือวิดีโอที่ต้องโฟกัสใกล้ ๆ สามารถเลือกถ่ายแบบกลับหัวได้ โดยกางขาตั้งออกในองศาที่ต้องการแล้วเสียบแกนกลางเข้าไปโดยให้กล้องอยู่ทางด้านล่างและปลายแกนอยู่ทางด้านบน จะช่วยให้ถ่ายโฟกัสวัตถุได้นิ่งกว่า

ถ่วงน้ำหนักแกนกลางด้วยของหนัก หากลองสังเกตดูจะเห็นว่าด้านล่างของแกนกลางจะมีตะขอเล็ก ๆ อยู่ ซึ่งก็มีไว้เพื่อช่วยถ่วงน้ำหนักนั่นเอง วิธีการใช้งานคือ นำของหนักมาแขวนถ่วงเอาไว้เพื่อเพิ่มความสมดุล ขาตั้งกล้อง หากเลือกได้ถูกประเภทและใช้งานอย่างถูกวิธีก็จะใช้ได้นานและช่วยให้การถ่ายภาพหรือวิดีโอเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเยอะเลย หากใครที่ใช้กล้อง DSLR หรือใช้เลนส์หนัก ๆ ก็สามารถใช้ขาตั้งช่วยได้

คำค้นหายอดนิยมในหมวดหมู่นี้: ​กล้อง , กล้องฟิล์ม , กล้องถ่ายวีดีโอ , กล้อง DSLR , กล้องดิจิตอล , กล้อง Canon , Canon EOS , กล้อง ฟูจิ , กล้อง Nikon , กล้อง Olympus , กล้องถ่ายรูป Sony , เลนส์ Canon , Drone